ช่วงใกล้จะจบ ม.6 หลายคนคงหนักใจอยู่ไม่น้อยกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง เพราะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างชีวิตมัธยมที่กำลังก้าวเข้าสู่ชีวิตมหาลัย เพื่อสานต่อความฝันด้วยการพยายามสอบเข้าคณะ และสาขาวิชาที่ตัวเองชอบ หรือคาดหวังว่าอยากจะเรียนต่อในด้านนั้น ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ในปัจจุบันระบบการคัดคนเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยนั้นมีความเข้มข้นอยู่ไม่น้อย การสอบแข่งขันจึงเป็นเรื่องที่เด็ก ม.6 ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องเตรียมพร้อมสำหรับสนามแข่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำ Portfolio หรือแฟ้มสะสมผลงานที่จำเป็นต้องมี ฉะนั้นแล้วเราจะทำอย่างไร เพื่อให้ Portfolio ของเราน่าสนใจ และโดนใจคณะกรรมการ
ควรมีอะไรใน Portfolio
ก่อนที่จะรู้จักกับเทคนิคและวิธีการสร้างแฟ้มสะสมผลงาน เราต้องมาทำความรู้จักกับแฟ้มสะสมผลงานเสียก่อน Portfolio หรือ แฟ้มสะสมผลงานก็คือ แฟ้มที่จัดเก็บเอกสาร ผลงานที่แสดงให้เห็นว่าเรามีความถนัด หรือมีความสามารถอะไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปของเกียรติบัตร แฟ้มสะสมผลงานจะประกอบไปด้วยส่วนหน้าปก หน้าประวัติส่วนตัว หน้าประวัติการศึกษา หน้าผลงาน หน้ากิจกรรม และภาคผนวกที่อาจจะใส่เป็นรูปภาพ หรืออื่น ๆ ที่เป็นหลักฐาน สนับสนุน หรือแสดงให้เห็นว่าเรามีศักยภาพตามที่ได้กล่าวมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เราจะต้องเก็บสะสมและรวบรวมไว้ตั้งแต่ ม.4 เรื่อยมาจนถึง ม.6 และหากเรามีเอกสารหลักฐานมาสนับสนุน มายืนยันก็จะทำให้คณะกรรมการเห็นถึงความสามารถและความถนัดของเราผ่านผลงานที่เก็บรวบรวมไว้อย่างเป็นระบบ
เทคนิคพิชิตใจ ทำ Portfolio อย่างไรให้โดนใจคณะกรรมการ
การทำ Portfolio หลายคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก หรืออาจคิดว่าต้องเก่งด้านคอมพิวเตอร์ ด้านเทคโนโลยีหรือเปล่า จึงจะทำได้สวย แต่จริง ๆ แล้ว เราทุกคนสามารถออกแบบ และสร้างสรรค์แฟ้มสะสมผลงานด้วยตัวเราเองได้ โดยวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถทำแฟ้มสะสมผลงานที่น่าใจใจได้คือ ประการแรก หน้าปก ควรออกแบบหน้าปกให้มีความสร้างสรรค์โดดเด่น สะดุดตา เพราะหน้าปกคือส่วนแรกสุดที่จะดึงดูดใจคณะกรรมการให้เปิดอ่าน ต่อมาคือหน้าประวัติส่วนตัว เราควรใส่ข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ชื่อ-สกุล อายุ คติประจำใจ ความสามารถพิเศษ งานอดิเรก ความสนใจที่เกี่ยวข้องกับคณะหรือสาขาวิชาที่เราจะเรียน ต่อมาคือหน้าประวัติการศึกษา ข้อมูลที่ควรเน้นคือจบจากโรงเรียนอะไร สายการเรียนอะไร เกรดเฉลี่ยรวมเท่าไหร่ ถ้ามีใบรับรองผลการเรียน หรือเกียรติบัตรด้านการศึกษาก็สามารถนำมาประกอบได้ และที่สำคัญอย่างมากก็คือ หน้าผลงาน ควรคัดเลือกผลงานที่เด่น ๆ และหากเป็นผลงานที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่เราเลือกเรียนยิ่งดี
ต่อมาเป็นหน้ากิจกรรม หน้านี้จะเป็นการนำเสนอกิจกรรมที่เราเคยเข้าร่วมว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง ถ้าเป็นกิจกรรมที่หลายหลายและส่งเสริมในเรื่องความเสียสละ ด้านจิตอาสาก็จะยิ่งทำให้คณะกรรมการพิจารณาเป็นพิเศษ
นอกจากนี้สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ การเรียงลำดับข้อมูลที่เป็นผลงานใน Portfolio ควรจัดเรียงตามลำดับเวลา วันที่ และปี พ.ศ ก่อนและหลังจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่น้อง ๆ ต้องการบอก นอกจากนี้ต้องคำนึงเสมอว่าข้อมูลที่เขียนลงไปต้องตรงกับความเป็นจริง เขียนอธิบายสิ่งที่จะนำเสนอให้ชัดเจน ตรงประเด็น สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่ต้องการสื่อสารมากที่สุด และที่สำคัญคือต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง โดยนำเอกลักษณ์ของตัวเองมาออกแบบให้แปลกใหม่และสร้างสรรค์ นำเสนอสิ่งที่เราถนัด ชอบ และสามารถทำได้อย่างเต็มศักยภาพและสร้างสรรค์ เพียงแค่เราทำแฟ้มสะสมผลงานให้น่าสนใจ ก็จะมีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอน