เป็นปีที่ 2 แล้วที่สนามช้า อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต บุรีรัมย์ ได้จัดงานการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเลียบชิงแชมป์โลก โดยในปี 2019 นี้ เป็นสนามที่ 15 ของฤดูกาล งานได้จัดขึ้นวันที่ 4 – 6 ตุลาคม 2562 ผู้ชนะเลิศรายการนี้ก็คือ มาร์ค มาร์เกซ นักแข่งความเร็วจากประเทศสเปน กลิ่นอายของความคึกคักที่เกิดขึ้นในจ.บุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียงอย่างสุรินทร์ยังมีควันจาง ๆ ให้ได้สัมผัสอยู่ ในปี 2018 เป็นปีแรกที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลได้รับเกียรติในการจัดงานนั้น มีข้อบกพร่องหลายอย่าง ที่ปีนี้ผู้จัดงานกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าได้รับการแก้ไขจนหมดสิ้น ทำให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ สัญญาของการจัดงาน 3 ปีที่เซ็นไว้แล้ว มีแนวโน้มที่จะมีการต่อสัญญาไปอีก
คาดการณ์ว่าเงินสะพัดในบุรีรัมย์และใกล้เคียง กว่า 600 ล้านบาท ในช่วงของการแข่งขัน
ด้วยจำนวนผู้เข้าชมการแข่งขัน กว่า 2 แสนคน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว เกือบ 2% ทำให้โรงแรมที่พักในบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงเต็มหมด หลายคนต้องเดินทางกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อเข้าชมการแข่งขัน โดยมีสัดส่วนของชาวต่างชาติที่มาเข้าร่วมชมการแข่งขันอยู่ประมาณ 60,000 คน ซึ่งเพิ่มจากปีที่แล้ว ที่มียอดการเข้าชมจากชาวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 30,000 คน เรียกได้ว่า เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ซึ่งในปีหน้า ที่จะมีการแข่งขันในช่วง เดือนมีนาคม 2563 ก็เริ่มมีการจองห้องพักกันแล้ว
ภายในงานนอกจากจะมีการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่เป็นกิจกรรมหลักแล้ว สีสันในงานก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังของไทย การแข่งขัน Burirum Muaythai Expo ที่มีนักมวยไทยมาปะทะหมัดและศิลปะมวยไทยให้ได้ชมกัน เรียกได้ว่าค่าบัตรเข้าชมคุ้มค่าและน่าสนใจมาก ได้ชมทั้งแข่งรถ คอนเสิร์ต และมวยไทย บูธกิจกรรมของสปอนเซอร์ทั้งภาครัฐและเอกชน สินค้าโอท็อปประจำจังหวัดและภูมิภาค มวยไทย อาหารไทย ช้างไทยจากสุรินทร์ ต่างดึงดูดให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับความสนุกนอกจากการแข่งขันที่ความเร็วเป็นกิจกรรมหลักในงาน
อีกสีสันที่ได้รับความฮือฮาเป็นอย่างมากในสายตาชาวต่างชาติ ก็เป็นรถรับส่งภายในงานอย่าง “GU ถีบ”เป็นรถสามล้อถีบ รถมอเตอร์ไซต์พ่วงข้าง ที่ให้บริการสำหรับคนที่ไม่อยากเดินภายในงาน แล้วยังมี “Shutter Tan” หรือรถอีแต๋นของไทยที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ที่ให้บริการจากในสนามรับ-ส่ง ผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก ไปยังบริเวณถนนหลักด้านนอกสนามแข่ง
เมื่อผลงานการจัดงานระดับโลก ที่สร้างเงินสะพัดในบุรีรัมย์และใกล้เคียงกว่า 600 ล้านบาท และเงินหมนุนเวียนในประเทศไทยช่วงมีการแข่งขันกว่า 3 พันล้านบาท ปัจจัยหลักที่สำคัญทำให้งานสำเร็จก็คือความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการจัดงาน ทำให้ในการต่อสัญญาครั้งต่อไปภาครัฐมีการพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านลิขสิทธิ์เพื่อแบ่งเบาภาระของภาคเอกชน ด้วยการดึงงานระดับโลกมาจัดที่เมืองไทย เป็นโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวชาวไทยมาใช้จ่ายและเงินสะพัดในระบบมากยิ่งขึ้น