ชีวิตวัยเรียนวัยรุ่นมักมีเรื่องวุ่น ๆ อยู่เสมอ ใครกันนะช่างบอกไว้ว่า วัยผู้ใหญ่ต่างหากที่ต้องเครียดเพราะต้องรับผิดชอบนั่นโน้นนี่มากมาย บลา ๆ วัยรุ่นวัยเรียนน่ะสบายสุดแล้ว มีความสุขที่สุดแล้ว นักเรียนหลายคนคงอยากจะลุกขึ้นมาเถียงใจจะขาดแล้วแน่นอน เพราะหากวัดกันด้วยเรื่องของความรับผิดชอบแล้วล่ะก็ วัยรุ่นวัยเรียนเองก็มีหน้าที่สำคัญที่ต้องรับผิดชอบเช่นกันนั่นคือเรื่องของการเรียนนั่นเอง หน้าที่ที่ผู้ใหญ่หรือพ่อแม่เองนั่นแหละที่คาดหวังและอยากเห็นผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุดจากพวกเขา และเรื่องเรียนนี่แหละที่ทำเอานักเรียนหลายคนจิตตกกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงผลการเรียนออก และเกรดมันตก !
มีนักเรียนจำนวนมากถึงกับเครียดเมื่อเกรดของตัวเองตก ไม่เป็นไปตามที่หวัง และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไปดี บทความนี้อยากให้นักเรียนทุกคนที่กำลังอ่านอยู่และกำลังอยู่ในภาวะเครียดกับเกรดที่ไม่เป็นที่น่าพอใจของตนเองลองเปิดใจอ่านและคิดตามดู ว่าเกรดตกแล้วต้องทำอย่างไร ?
ทำใจ … ยอมรับความจริง !
มันเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำ นักเรียนหลายคนที่เกรดตกแล้วจิตตกนั่นก็เพราะ คิดซ้ำ ๆ ว่าทำไม ๆ ไม่อยากให้เกิดขึ้น วนอยู่แบบนี้แม้จะผ่านเวลาไปจนใกล้เปิดเทอมใหม่แล้วก็ตาม นั่นเพราะเรายอมรับความจริงไม่ได้ จุดนี้สำคัญมากเมื่อไม่ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้วสักทีก็ไม่มีความคิดจะทำอะไรอย่างอื่นในชีวิตอีกเลย เพราะมัวแต่คิดแต่เรื่องเกรดตกอยู่แบบนั้น ผลร้ายก็จะยิ่งเกิดขึ้นอีกกับการเรียนเทอมต่อไป เพราะเครียดก็เรียนไม่รู้เรื่อง สุดท้ายเกรดของเทอมใหม่ก็ตกอีกและอาจจะแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นถ้าเรายอมรับความจริงได้ว่า เกรดมันออกมาแล้ว เทอมนี้แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เราจะเริ่มต้นใหม่ได้เร็วขึ้น
ให้กำลังใจตัวเอง
เกรดตกมันย่อมเสียกำลังใจแน่นอน ความท้อถอยในการเรียนจะตามมา ลึก ๆ แล้วเรามักต้องการกำลังใจ คำปลอบใจ หรือคำแนะนำอะไรก็ได้ที่ดีให้สามารถก้าวผ่านมันไปได้ แต่เชื่อไหมว่าต่อให้มีกำลังใจจากคนอื่นไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยคนมันก็ไม่เท่ากับการให้กำลังใจตัวเอง ถ้าเราเอาแต่ตอกย้ำว่าเป็นความผิดของเราอยู่ตลอดเวลา มันก็ทำให้เราไม่สามารถเปิดใจรับกำลังใจจากใครได้เลย การหยุดโทษตัวเองและหันกลับมาให้กำลังใจตัวเองก่อนว่าไม่เป็นไร เริ่มใหม่ได้ เทอมหน้าฉันจะทำให้ดีกว่านี้ มันคือการเริ่มต้นของการลุกขึ้นเดินหน้าที่ดีที่สุด
วางแผนแล้วเริ่มใหม่
ในความเป็นจริงคำว่า เกรดตก ของหลายคนมันต่างกัน บางคนเกรดตกแบบที่เกรดเฉลี่ยมันต่ำกว่าเกณฑ์จริง ๆ จากการที่ตกในบางวิชาหรือหลายวิชา ในกรณีนี้มีทางเดียวเลยคือ ขยัน ใส่ใจ ตั้งใจเรียนให้มากกว่าเดิมเท่านั้น แต่ก็มีอีกจำนวนมากที่เกรดตกในแบบที่ลดลงจากเดิมแค่ไม่กี่จุด เช่น จาก 3.60 เหลือ 3.55, 3.50 เป็นต้น กรณีนี้เป็นเพราะกดดันตัวเองมากเกินไป การเริ่มใหม่ไม่มีอะไรเลยนอกจากบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เพราะหากไม่หลอกตัวเองจะเห็นว่าเกรดก็ยังสูงอยู่ดี ทำใจให้สบายแล้วสนุกกกับการเรียนครั้งต่อไปดีกว่า
จะเห็นว่าจริง ๆ แล้วเกรดตกไม่ใช่ปัญหาที่ซับซ้อนอะไรเลย แต่ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับนักเรียนหลายคนเลยทีเดียว ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญและดูจะเป็นปัจจัยหลักซะด้วยที่ทำให้นักเรียนที่เกรดตกแล้วเครียดก็เห็นจะมาจากพ่อแม่ ครอบครัวนั่นเองที่ใส่ความคาดหวังกับเด็กมากเกินไป คุณอาจจะบอกว่าทุกอย่างมันมาจากความหวังดีก็จริง แต่ต้องมองและถามลูกด้วยว่าเขาชอบและมีความสุขกับสิ่งที่พ่อแม่คาดหวังและวางให้เขาเดินตามทั้งหมดหรือไม่ เพราะท้ายสุดแล้วเราทุกคนไม่ได้ต้องการอะไรในชีวิตมากไปกว่าความสุข ลูกคุณเองก็เช่นเดียวกัน