ปัญหาการเรียนไม่จบของนักเรียนเป็นอีกหนึ่งเรื่องของสังคมไทยที่มีอยู่จำนวนมาก แม้จะมีข้อกำหนดทางกฎหมายในระดับชั้นขั้นต่ำที่จำเป็นต้องเรียนก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลายอย่างในสังคมก็เป็นปัจจัยและส่งผลไม่น้อยที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวนี้ เนื่องจากสิ่งยั่วยุมากมายทั้งเกม การคบเพื่อนและคนในสังคม สิ่งเสพติด ปัญหาการตั้งครรภ์ เหล่านี้เป็นปัญหาหลักที่ทำให้นักเรียนที่กำลังเป็นช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อจบอนาคตการเรียนได้ง่าย ๆ และถึงแม้จะมีนักเรียนอีกมากที่ยังคงมุ่งมั่นแน่วแน่ในการเรียนอยู่แต่ก็มักช่วงที่ท้อแท้กับการเรียนได้เหมือนกัน เมื่อเกิดความรู้สึกแบบนี้เราควรทำอย่างไรต่อ ?
ท้อแท้หรือแค่ไม่เข้าใจ
เมื่อเกิดอาการท้อแท้จนไม่อยากเรียนต่อไปแล้ว ลองทบทวนตัวเองดูใหม่ก่อนว่าอะไรกันแน่ทำให้เราท้อแท้ในการเรียน หลายครั้งพบว่าไม่ได้มาจากปัญหาภายนอกหรือสิ่งยั่วยุในสังคมสักเท่าไหร่นัก แต่อาจเป็นเรื่องในวิชาเรียนเองนั่นแหละ มีหลายคนที่กับบางวิชาเริ่มรู้สึกว่ายาก ไม่ค่อยเข้าใจ และเริ่มไม่สนใจเท่าที่ควร รู้ตัวอีกทีก็ไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ แล้ว และเมื่อไม่เข้าใจก็เริ่มรู้สึกไม่อยากเข้าเรียนวิชานั้น และวิชาอื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ความสามารถในการเรียนแย่ลงเรื่อย ๆ ก็เริ่มท้อแท้คิดว่าตนเองไม่เรียนดีกว่า ไม่อยากฝืนแล้ว ดังนั้นถ้าตอนนี้นักเรียนคนไหนเริ่มรู้สึกว่าตนเองท้อแท้กับการเรียนให้พิจารณาดูว่าเป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่ หากใช่ก็ต้องกัดฟันหันหน้าทำความเข้าใจกับบทเรียนใหม่อย่างเร่งด่วนเลย เมื่อเริ่มเข้าใจในบทเรียนแล้ว ความสนุกก็จะมา ความท้อแท้ก็จะหายไปเอง
มองหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ
อะไรเดิม ๆ มักทำให้เราเบื่อหน่ายและเกิดความรู้สึกท้อแท้ในสิ่งที่ทำอยู่ทุก ๆ วันได้ง่าย เหมือนการเรียนที่เราต้องตื่นนอนเป็นเวลา เรียนวิชาเดิมวนไปมา สถานที่เดิม ครูคนเดิม เพื่อนกลุ่มเดิม และอีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับการเรียนที่มันวนลูปไปมาจนเราอยากหยุดการเรียนไปทำอย่างอื่น แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรอยู่ดี ในเมื่อสิ่งเดิม ๆ ทำให้เบื่อขนาดนี้ก็ลองมองหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ หรือกิจกรรมใหม่ ๆ เข้ามาเสริมดูบ้างดีไหม เช่น หาบุคคลที่เป็นแบบอย่างในทางที่ดี อาจจะเป็นดารานักร้อง คนดังต่าง ๆ ก็ได้ ลองอ่าน ศึกษาชีวิตเขา ความสำเร็จที่เขามี สังคมที่เขาอยู่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราอยากเป็นคนที่มีความสุขประสบความสำเร็จตามบ้าง ความอยากเรียนก็มีมากขึ้นตามไปด้วย
โฟกัสที่เป้าหมาย
เราทุกคนต้องมีเป้าหมายในตัวเองกันทั้งนั้น เป้าหมายเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เราอยากทำบางอย่างที่ไม่ชอบ ยากลำบาก โดยไม่มีข้อแม้ได้อย่างง่ายดาย เมื่อท้อแท้กับการเรียนก็ลองคิดถึงเป้าหมายนั้นดู เช่น ทำเพื่อช่วยเหลือให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้นในอนาคต เพื่อคณะที่อยากเรียน อาชีพในฝันที่อยากเป็น อนาคตที่สามารถดูแลหาเลี้ยงชีพตนเองได้อย่างไม่ลำบาก เป็นต้น เมื่อเราโฟกัสไปที่เป้าหมายเราจะบอกกับตัวเองให้ผ่านจุดที่เบื่อหน่ายท้อแท้ไปได้นั่นเอง
เมื่อถึงช่วงหนึ่งของการเรียนอย่างน้อยต้องมีสักครั้งที่เริ่มรู้สึกท้อแท้กับการเล่าเรียน ไม่อยากเรียนต่อแล้ว อยากออกจากโรงเรียน ลาออกจากหน้าที่นักเรียนให้รู้แล้วรู้รอด ความรู้สึกนี้ครอบครัวต้องหมั่นถาม หมั่นสังเกต และคอยให้กำลังใจเด็ก อย่าให้เด็กต้องรู้สึกแบกรับอยู่คนเดียว