หลายคนคงรู้จัก Mind Mapping หรือที่เรียกว่าแผนผังความคิด แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่า เจ้าแผนผังความคิดนี้วิเศษขนาดไหน ปฏิเสธไม่ได้ว่าในการเรียนแต่ละรายวิชานั้นช่างยุ่งยากและซับซ้อน และจะวุ่นวายมากเป็นพิเศษในช่วงใกล้สอบ เพราะนอกจากจะต้องส่งงาน เคลียร์งานที่ค้างให้เสร็จทันเวลา และยังจะต้องแบ่งเวลาเพื่ออ่านหนังสือสอบนั้น ดูเป็นเรื่องที่วุ่นวายและเครียดสำหรับนักเรียนหลายคน แล้วจะมีวิธีไหนล่ะ ที่จะทำให้เราสามารถทบทวนเนื้อหา และสรุปความรู้ แล้วนำไปใช้ในวิชาที่เรียนได้อย่างมีคุณภาพ คำตอบก็คือ Mind Mapping หรือแผนผังความคิดนี่เอง
Mind Mapping หรือแผนผังความคิด คืออะไร
บางคนสงสัยว่า เอ๊ะ! เจ้าแผนผังความคิดนี่ มันมีที่มาอย่างไร ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนว่า แผนผังความคิดนั้น เริ่มแรกก็มาจาก ในปี พ.ศ. 2517 โทนี บูซาน (Tony Buzan) นักจิตวิทยาชาวอังกฤษ เป็นผู้คิดริเริ่มนำเอาความรู้เรื่องสมองมาปรับใช้กับการเรียนรู้ของเขา โดยพัฒนาจากการจดบันทึกแบบเดิมที่จดบันทึกเป็นตัวอักษรเป็นบรรทัด ๆ เป็นแถว ๆ เปลี่ยนมาเป็นบันทึกด้วยคำ ภาพ สัญลักษณ์เหมือนการแตกกิ่งก้านของต้นไม้ หรือเป็นการจำลองการแตกของเซลล์สมอง โดยใช้สีสัน ต่อมาโทนี บูซาน พบว่า วิธีที่เขาใช้นั้นสามารถนำไปใช้กับกิจกรรมอื่น ๆ ทั้งในชีวิตส่วนตัว และชีวิตการงาน เช่น การวางแผน การตัดสินใจ การช่วยจำ การแก้ปัญหา การนำเสนองาน และการเขียนหนังสือ เป็นต้น ดังนั้นการเขียน นำเอาทฤษฎีที่เกี่ยวกับสมองมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด โดยเฉพาะเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ การเขียนสรุปความรู้แบบ Mind Mapping หรือแผนที่ความคิด จึงเป็นการใช้ทักษะของสมอง เป็นการทำงานร่วมกันของสมองซีกซ้ายและซีกขวา โดยสมองซีกขวาจะทำหน้าที่สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ จินตนาการ ความงาม ศิลปะ จังหวะ และสมองซีกซ้ายจะทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ภาษา สัญลักษณ์ ลำดับ ระบบ ความเป็นเหตุเป็นผล
Mind Mapping ทำแผนผังความคิด พิชิต A
การทำแผนผังความคิดเพื่อพิชิตเกรด A นั้น ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่เราลำดับประเด็นสำคัญ โดยประเด็นใหญ่ให้เขียนไว้ตรงกลาง แล้วค่อยแตกกิ่งก้านสาขาออกเป็นประเด็นย่อยที่สำคัญ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรามองเห็นภาพความของเรื่องนั้น ๆ และสามารถเข้าใจและจดจำได้ดีอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ การทำแผนผังความคิดยังสามารถทำให้เราได้ค้นพบไอเดียใหม่ ๆ หาข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนในเรื่องนั้น ๆ รวมถึงสามารถแก้ปัญหาหรือปรับปรุงจุดอ่อนนั้นได้ นอกจากนี้ยังช่วยวางแผนการทำงาน การจัดลำดับความสำคัญ ว่าเราควรทำอะไรก่อนหรือหลัง เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจลงมือทำสิ่งต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ คิดได้อย่างเป็นระบบ คิดครบ สามารถสรุป และเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนมาได้โดยไม่สับสน และยังนำกลับมาอ่านทบทวนได้รวดเร็ว ง่ายทันใจ
ด้วยความพิเศษของแผนผังความคิดนี้เอง ที่จะช่วยให้การเรียนของเราไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก หรือเคร่งเครียดอีกต่อไป เพราะแผนผังความคิดจะช่วยให้การลำดับความคิดของเราเป็นไปอย่างมีคุณภาพ และสามารถนำมาปรับใช้ได้ทั้งกับการเรียน หรือการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ดังนั้นเรามาเริ่มทำแผนผังความคิดพิชิตเกรด A กันเถอะ